วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ถ้าใครอยากไปเที่ยวบาหลี คิดดูให้ดีก่อนดีกว่า


ถ้าใครอยากไปเที่ยวบาหลี คิดดูให้ดีก่อนดีกว่า!!! เสาวนีย์ : จากออสเตรเลีย : มติชน หลายเดือนที่ผ่านมาในออสเตรเลีย ข่าวที่จะต้องมีบนหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกวันคือเรื่องเกี่ยวกับ Schapelle Corby หญิงชาวออสเตรเลียนซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนตุลาคม 2004 ที่ผ่านมา เมื่อผ่านเข้าสู่ศุลกากร Schapelle ถูกสั่งให้เปิดกระเป๋าเดินทางเพื่อตรวจสอบ ก็พบว่าในกระเป๋าเดินทางนั้นมีกัญชาน้ำหนัก 4.1 กิโลกรัม แต่ Schapelle ปฏิเสธว่าไม่เคยเห็นของดังกล่าวนี้มาก่อน Schapelle ถูกควบคุมตัวไว้เพื่อรอขึ้นศาลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คดีนี้เพิ่งตัดสินความเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยตัดสินจำคุก 20 ปี ซึ่งชาวออสเตรเลียนทั้งหลายลงความเห็นว่า เป็นโทษหนักเกินควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวออสเตรเลียนส่วนใหญ่เชื่อว่า Schapelle บริสุทธิ์ด้วยหลักฐานด้านเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยมีเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ และที่เกิดขึ้นติดตามมา แต่ข้อคิดที่สำคัญที่ได้จากข่าวนี้ก็คือ ต้องปิดกระเป๋าทุกใบและทุกช่องที่บรรจุของได้ ให้แน่นหนาทุกครั้งที่เดินทาง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ Schapelle เดินทางจาก Brisbane ไปเปลี่ยนเครื่องที่ Sydney เพื่อไปบาหลีโดยขึ้นเครื่อง Qantus ตอนที่กระเป๋าเดินทางผ่านเครื่อง X-ray ตอนขาเข้าที่ Brisbane ก็ผ่านไปได้ ไม่พบว่ามีของผิดปกติหรือน่าสงสัยอะไรในกระเป๋าที่ส่งแยกจากตัวเข้าเครื่อง บินไป แต่เมื่อไปถึงบาหลี ก็พบว่ามีกัญชาอยู่ในกระเป๋านั้น Schapelle บอกว่า อาจเป็นเพราะมีคนแอบเอากัญชานั้นมาใส่ในกระเป๋าของเขา เพื่อgป็นการขนส่งจาก Sydney ไปยังบาหลี แต่ทางตำรวจบาหลีปฏิเสธไม่ยอมรับความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ผู้บริหารระดับสูงในด้านความปลอดภัยของ Qantus บอกว่า "นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ค่อนข้างจะปัญญาอ่อน" ซึ่งคำให้สัมภาษณ์นี้ยิ่งส่งผลร้ายแก่คดีของ Schapelle มากขึ้น ทนายความของ Schapelle ได้ร้องขอต่อศาลเพื่อตรวจสอบลายนิ้วมือที่ถุงพลาสติ8ที่บรรจุกัญชานั้น แต่ศาลก็ไม่อนุญาต ซึ่งก็แปลกดีนะคะ ในเวลาใกล้ๆ กันนั้น ก็มีการตรวจพบการขนยาเสพติดเข้าประเทศอินโดนีเซียเป็นขบวนการเลย อันนี้เป็นแก๊งขนยาจริงๆ เป็นชาวออสเตรเลียน ขนยาไปส่งในอินโดนีเซียอีกเช่นกัน ก็ดูจะเป็นการยืนยันว่ายาเสพติดจากออสเตรเลียซึ่งน่าจะราคาสูงกว่าของ อินโดนีเซียเอง ก็เป็นที่ต้องการของแก๊งในอินโดนีเซียจริง และก็มีการตรวจพบยาเสพติดในกระเป๋าเดินทางขาออกอีกไม่ต่ำกว่า 3-4 รายติดๆ กัน ยิ่งกว่านั้น ยังมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ออกมาให้ข่าวเห็นใจ Schapelle เขาบอกว่า เขาเชื่อว่า Schapelle ไม่ผิดแน่ เพราะเขาเองก็เคยเจอเหตุการณ์ด้วยตัวเองเมื่อตอนที่เขาเดินทางไปพักผ่อนที่ บาหลีเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนที่เขาไปเอากระเป๋าที่ส่งลงจากเครื่องมาตามรางนั้น เขาพบว่ากระเป๋าของเขาวางอยู่นอกรางส่งกระเป๋าแล้ว ซึ่งเขาก็แปลกใจอยู่บ้าง และเมื่อเขาไปถึงโรงแรมที่พัก เปิดกระเป๋าเดินทางออกก็พบว่ามีกัญชาอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา ตอนนั้นเขาตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก จึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อกงสุลออสเตรเลียในบาหลี คนที่รับโทรศัพท์บอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ แต่เขาก็แนะนำให้สองสามีภรรยานั้นนำกัญชาทิ้งลงชักโครกเสีย ไม่เช่นนั้นถ้าตำรวจตรวจพบเข้า เขาทั้งสองจะต้องถูกจำคุกอย่างแน่นอน เขาจึงพยายามทิ้งลงชักโครกจนกระทั่งท่อแทบตัน เขาจึงต้องแอบนำบางส่วนใส่ตามกระถางต้นไม้ในโรงแรมบ้าง หลังจากนั้น การพักผ่อนวันหยุดของเขาก็ไม่มีความสุขเลย เพราะต้องคอยระแวงว่า พวกเจ้าของกัญชาเหล่านั้นจะมาตามเอาของคืน และเขาทั้งสองจะต้องลำบากแน่นอน เรื่องในทำนองเดียวกับของ Schapelle เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วกับชายชาวฝรั่งเศสเมื่อปี 1999 โดยที่ Michael Loic Blanc ชาวฝรั่งเศสผู้นี้เดินทางท่องเที่ยวเข้าไปในบาหลีเช่นกัน เมื่อไปถึงสนามบิน เขาถูกขอเปิดค้นกระเป๋า ซึ่งเขาก็ยินดี เจ้าหน้าที่จึงพาเขาเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่า กระเป๋าของเขาถูกเปิดอยู่แล้ว และ Scuba tanks ที่เพื่อนของเขาที่อาศัยอยู่ที่บาหลี ฝากให้นำมาด้วยนั้น ก็ถูกผ่าเปิดออกด้วยและพบว่ามีกัญชาอยู่ในนั้น 3.8 กิโลกรัม แต่ Michael ปฏิเสธว่าไม่ใช่ของเขา เขาขอให้ตำรวจตรวจสอบลายนิ้วมือในของกลางนั้น แต่ก็ถูกปฏิเสธเช่นเดียวกับกรณีของ Schapelle ตอนนั้นเรื่องของ Michael ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่กล่าวถึงกันมากในฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลฝรั่งเศสก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ Michael ถูกศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต เขาขออุทธรณ์ แต่คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ก็ยังคงยืนคำตัดสินเดิมไว้ ขณะนี้ Michael ก็ยังคงจำคุกอยู่ในอินโดนีเซีย แต่เดิมนั้น คนออสเตรเลียนนิยมเดินทางไปพักผ่อนที่บาหลีกันมาก เพราะสถานที่สวย และราคาถูกสำหรับเขา แต่ตอนนี้ หลังจากคำตัดสินคดีของ Schapelle ที่ผ่านมา หลายๆ คนได้ขอยกเลิกการเดินทางของเขาแล้ว ส่วนคนที่งดไม่ได้ก็ต้องเดินทางไปด้วยใจระทึก เกรงว่าจะเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งขนยาบ้าง บริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งในออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาถูกขอยกเลิกการเดินทาง เลยอยากเล่าเรื่องเหล่านี้ให้คนไทยเราฟังกันบ้าง จะได้ระวังเรื่องการเดินทางกันมากขึ้น ที่สำคัญคือต้องปิดกระเป๋าเดินทาง ใส่กุญแจให้แน่นหนา ทุกช่องทุกซอกของกระเป๋าเลยนะคะ แต่เดิมเรากลัวของเราหาย แต่เดี๋ยวนี้กลับต้องกลัวใครเอาของมาใส่ให้ เกรงใจ (ตัวเอง) กันแย่เลย เดี๋ยวได้ไปกิน-อยู่ฟรีใน (คุก) ต่างประเทศโดยไม่ได้ตั้งใจ
อ้างอิง http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=0415120848&srcday=2005/08/12&search=no&select_day=2005/08/12

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น