วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อาหารเสริมกับชีวิตปัจจุบัน


วิถีชีวิตอันเคร่งเครียดท่ามกลางมลภาวะของคนกรุงเทพฯ เป็นแรงผลักดันให้อาหาร เสริม เข้ามามีบทบาทต่อผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพอาหารเสริมจำเป็นหรือไม่ อาหารเสริมจำเป็นแค่ไหนมีวิธีการเลือกซื้อเลือกกินอย่างไร แพทย์ส่วนใหญ่ถือว่า การรับประทานอาหารได้ครบถ้วนอาหารเสริมไม่ได้ให้ประโยชน์อะไร แต่แพทย์บางท่าน เห็นความจำเป็นเพราะวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันต่างจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ หากผู้ ที่มีรายได้เพียงวันละ 100 บาท ต้องมาเสียเงินซื้ออาหารเสริมวันละ 10 บาท ไม่ เหมาะสมแน่ เพียงรับประทานผัก-ปลา ก็ได้สารอาหารครบถ้วนแล้ว แต่ผู้ที่มีกิจวัตร ประจำวันค่อนข้างเร่งรีบและเครียด รับประทานอาหารไม่ครบทุกหมู่ ทุกมื้อและมี เงินทองเหลือเฟือ การซื้ออาหารเสริมขวดละไม่แพงนัก เมื่อเทียบกับไวน์ขวดละเป็น แสนบาทรับประทานคงเป็นประโยชน์ที่คุ้มค่าทีเดียวอาหารเสริมเพื่ออะไร อาหารเสริมมีส่วนช่วยป้องกันโรคบางอย่างได้ ส่วนวัตถุประสงค์หลักของคนไทยที่หัน มาสนใจอาหารเสริม คือ เพื่อการลดน้ำหนัก ซึ่งมักเป็นผู้หญิง นอกจากนี้คนไทยนิยม อาหารเสริมในกลุ่มวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินรวม วิตามินอีและซี สำหรับผู้ชายรับ ประทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงสมอง และบำรุงกำลัง เช่น โสม บิโลบ้า นอกจากนี้ยังมี กลุ่มที่ไปรับประทานอาหารเสริมเพื่อคลายเครียด ได้แก่กลุ่มวิตามินบี ซึ่งยังไม่ มีรายงานทางการแพทย์สนับสนุนว่าได้ผลมากน้อยเพียงใดเลือกบริโภคอย่างไร หลักการเลือกอาหารเสริมอย่างง่าย ๆ คือความต้องการของแต่ละคนผู้ที่รู้สึกเคร่ง เครียด ควรเสริมด้วยวิตามินรวม ถ้าเป็นผู้หญิงควรรับประทานวิตามินรวมที่มีเหล็ก ด้วย นอกจากนี้วิตามินกลุ่ม "แอนตีออกซิแตนท์" ซึ่งได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี และเบตาแคโรทีน ซึ่งมีรายงานการแพทย์ว่าสารอาหารกลุ่มนี้ช่วยลดการเสื่อมสภาพของ ร่างกาย ส่วนผู้หญิงอายุตั้งแต่ 35-40 ปีขึ้นไป ควรเลือกกลุ่มเสริมแคลเซียม เนื่องจากกระดูก เริ่มบาง ตั้งแต่วัยนี้แล้ว ไม่ได้เริ่มในวัยหมดประจำเดือน อย่างที่หลายคนเข้าใจกันนอกจากนี้ไม่จำเป็นว่าต้องรับประทานสูตรเดียวตลอดทุกวัน เช่น บางวันรู้สึกใกล้ เป็นหวัด อาจรับประทานวิตามินซีมากกว่าปกติ เป็นต้นมีอันตรายหรือไม่หากรับประทานมากเกินไป วิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น บีและซี หากรับประทานมากเกินไปจะถูกขับถ่ายออกทาง ปัสสาวะ ส่วนวิตามินที่ละลายในไขมัน อาจสะสมในร่างกายได้ จึงเกิดอันตรายได้ จึง ควรบริโภคในขนาดที่แนะนำเพื่อความปลอดภัย แร่ธาตุอื่น ๆ ก็เช่นกัน เช่น แคลเซียมระดับที่ปลอดภัย คือ 800-1,000 มก./วันโปรตีนเม็ดทำให้อ้วนหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เนื่องจากเม็ดโปรตีนที่มีในทั่วไป เป็นโมเลกุลย่อยที่เรียกว่า " กรดอะมิโน" ในเม็ดหนึ่งมีไม่กี่มิลลิกรัม น้อยกว่ากินสเต็ก 1 ชิ้นเสียอีก โปรตีนเม็ดเหมาะกับผู้ป่วย พักฟื้น หรือผู้สูงอายุ ซึ่งระบบการย่อยทำงานไม่ปกติ ย่อยเนื้อสัตว์ยาก แต่ว่าร่างกาย ยังต้องการ โปรตีน อาหารเสริมจึงมีบทบาทสำคัญ โปรตีนเม็ดแต่ละชนิดประกอบด้วยกรดอะมิโนต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน ซึ่งประโยชน์ก็ต่าง กัน ออกไป ควรต้องเลือกตามจุดประสงค์ โดยปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เช่นอาหาร เสริมบำรุงผิวตัวใหม่ (อิมิดีน) มีกรดอะมิโนอิมิดีน ซึ่งสกัดจากปลาทะเล ชนิด หนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษซึ่งไม่ได้จาก ปลาทั่วไปที่เป็นอาหารในชีวิตประจำวัน ทำหน้าที่ฟื้นฟูสภาพผิวอาหารเสริมก็เหมือนอาหารทั่วไป บางคนอาจแพ้อาหารเสริมบางอย่าง บางทีไม่ใช่แพ้ สารอาหารโดยตรง จึงควรระวังหากท่านเคยแพ้อาหารหรือสารบางอย่าง ซึ่งอาการแพ้ อาหารเสริมหรือการแพ้อาหารทั่วไป เช่น มีผื่นขึ้นตามตัว มีแผลที่ปาก ปากบวม ฯลฯ ซึ่งจะหายภายใน 2-3 วันเมื่อหยุดรับประทานและใช้ยาแก้แพ้ หรือปรึกษาแพทย์จะดี ที่สุด


วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ถ้าใครอยากไปเที่ยวบาหลี คิดดูให้ดีก่อนดีกว่า


ถ้าใครอยากไปเที่ยวบาหลี คิดดูให้ดีก่อนดีกว่า!!! เสาวนีย์ : จากออสเตรเลีย : มติชน หลายเดือนที่ผ่านมาในออสเตรเลีย ข่าวที่จะต้องมีบนหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกวันคือเรื่องเกี่ยวกับ Schapelle Corby หญิงชาวออสเตรเลียนซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนตุลาคม 2004 ที่ผ่านมา เมื่อผ่านเข้าสู่ศุลกากร Schapelle ถูกสั่งให้เปิดกระเป๋าเดินทางเพื่อตรวจสอบ ก็พบว่าในกระเป๋าเดินทางนั้นมีกัญชาน้ำหนัก 4.1 กิโลกรัม แต่ Schapelle ปฏิเสธว่าไม่เคยเห็นของดังกล่าวนี้มาก่อน Schapelle ถูกควบคุมตัวไว้เพื่อรอขึ้นศาลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คดีนี้เพิ่งตัดสินความเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยตัดสินจำคุก 20 ปี ซึ่งชาวออสเตรเลียนทั้งหลายลงความเห็นว่า เป็นโทษหนักเกินควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวออสเตรเลียนส่วนใหญ่เชื่อว่า Schapelle บริสุทธิ์ด้วยหลักฐานด้านเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยมีเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ และที่เกิดขึ้นติดตามมา แต่ข้อคิดที่สำคัญที่ได้จากข่าวนี้ก็คือ ต้องปิดกระเป๋าทุกใบและทุกช่องที่บรรจุของได้ ให้แน่นหนาทุกครั้งที่เดินทาง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ Schapelle เดินทางจาก Brisbane ไปเปลี่ยนเครื่องที่ Sydney เพื่อไปบาหลีโดยขึ้นเครื่อง Qantus ตอนที่กระเป๋าเดินทางผ่านเครื่อง X-ray ตอนขาเข้าที่ Brisbane ก็ผ่านไปได้ ไม่พบว่ามีของผิดปกติหรือน่าสงสัยอะไรในกระเป๋าที่ส่งแยกจากตัวเข้าเครื่อง บินไป แต่เมื่อไปถึงบาหลี ก็พบว่ามีกัญชาอยู่ในกระเป๋านั้น Schapelle บอกว่า อาจเป็นเพราะมีคนแอบเอากัญชานั้นมาใส่ในกระเป๋าของเขา เพื่อgป็นการขนส่งจาก Sydney ไปยังบาหลี แต่ทางตำรวจบาหลีปฏิเสธไม่ยอมรับความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ผู้บริหารระดับสูงในด้านความปลอดภัยของ Qantus บอกว่า "นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ค่อนข้างจะปัญญาอ่อน" ซึ่งคำให้สัมภาษณ์นี้ยิ่งส่งผลร้ายแก่คดีของ Schapelle มากขึ้น ทนายความของ Schapelle ได้ร้องขอต่อศาลเพื่อตรวจสอบลายนิ้วมือที่ถุงพลาสติ8ที่บรรจุกัญชานั้น แต่ศาลก็ไม่อนุญาต ซึ่งก็แปลกดีนะคะ ในเวลาใกล้ๆ กันนั้น ก็มีการตรวจพบการขนยาเสพติดเข้าประเทศอินโดนีเซียเป็นขบวนการเลย อันนี้เป็นแก๊งขนยาจริงๆ เป็นชาวออสเตรเลียน ขนยาไปส่งในอินโดนีเซียอีกเช่นกัน ก็ดูจะเป็นการยืนยันว่ายาเสพติดจากออสเตรเลียซึ่งน่าจะราคาสูงกว่าของ อินโดนีเซียเอง ก็เป็นที่ต้องการของแก๊งในอินโดนีเซียจริง และก็มีการตรวจพบยาเสพติดในกระเป๋าเดินทางขาออกอีกไม่ต่ำกว่า 3-4 รายติดๆ กัน ยิ่งกว่านั้น ยังมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ออกมาให้ข่าวเห็นใจ Schapelle เขาบอกว่า เขาเชื่อว่า Schapelle ไม่ผิดแน่ เพราะเขาเองก็เคยเจอเหตุการณ์ด้วยตัวเองเมื่อตอนที่เขาเดินทางไปพักผ่อนที่ บาหลีเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนที่เขาไปเอากระเป๋าที่ส่งลงจากเครื่องมาตามรางนั้น เขาพบว่ากระเป๋าของเขาวางอยู่นอกรางส่งกระเป๋าแล้ว ซึ่งเขาก็แปลกใจอยู่บ้าง และเมื่อเขาไปถึงโรงแรมที่พัก เปิดกระเป๋าเดินทางออกก็พบว่ามีกัญชาอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา ตอนนั้นเขาตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก จึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อกงสุลออสเตรเลียในบาหลี คนที่รับโทรศัพท์บอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ แต่เขาก็แนะนำให้สองสามีภรรยานั้นนำกัญชาทิ้งลงชักโครกเสีย ไม่เช่นนั้นถ้าตำรวจตรวจพบเข้า เขาทั้งสองจะต้องถูกจำคุกอย่างแน่นอน เขาจึงพยายามทิ้งลงชักโครกจนกระทั่งท่อแทบตัน เขาจึงต้องแอบนำบางส่วนใส่ตามกระถางต้นไม้ในโรงแรมบ้าง หลังจากนั้น การพักผ่อนวันหยุดของเขาก็ไม่มีความสุขเลย เพราะต้องคอยระแวงว่า พวกเจ้าของกัญชาเหล่านั้นจะมาตามเอาของคืน และเขาทั้งสองจะต้องลำบากแน่นอน เรื่องในทำนองเดียวกับของ Schapelle เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วกับชายชาวฝรั่งเศสเมื่อปี 1999 โดยที่ Michael Loic Blanc ชาวฝรั่งเศสผู้นี้เดินทางท่องเที่ยวเข้าไปในบาหลีเช่นกัน เมื่อไปถึงสนามบิน เขาถูกขอเปิดค้นกระเป๋า ซึ่งเขาก็ยินดี เจ้าหน้าที่จึงพาเขาเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่า กระเป๋าของเขาถูกเปิดอยู่แล้ว และ Scuba tanks ที่เพื่อนของเขาที่อาศัยอยู่ที่บาหลี ฝากให้นำมาด้วยนั้น ก็ถูกผ่าเปิดออกด้วยและพบว่ามีกัญชาอยู่ในนั้น 3.8 กิโลกรัม แต่ Michael ปฏิเสธว่าไม่ใช่ของเขา เขาขอให้ตำรวจตรวจสอบลายนิ้วมือในของกลางนั้น แต่ก็ถูกปฏิเสธเช่นเดียวกับกรณีของ Schapelle ตอนนั้นเรื่องของ Michael ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่กล่าวถึงกันมากในฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน แต่รัฐบาลฝรั่งเศสก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ Michael ถูกศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต เขาขออุทธรณ์ แต่คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ก็ยังคงยืนคำตัดสินเดิมไว้ ขณะนี้ Michael ก็ยังคงจำคุกอยู่ในอินโดนีเซีย แต่เดิมนั้น คนออสเตรเลียนนิยมเดินทางไปพักผ่อนที่บาหลีกันมาก เพราะสถานที่สวย และราคาถูกสำหรับเขา แต่ตอนนี้ หลังจากคำตัดสินคดีของ Schapelle ที่ผ่านมา หลายๆ คนได้ขอยกเลิกการเดินทางของเขาแล้ว ส่วนคนที่งดไม่ได้ก็ต้องเดินทางไปด้วยใจระทึก เกรงว่าจะเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งขนยาบ้าง บริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งในออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาถูกขอยกเลิกการเดินทาง เลยอยากเล่าเรื่องเหล่านี้ให้คนไทยเราฟังกันบ้าง จะได้ระวังเรื่องการเดินทางกันมากขึ้น ที่สำคัญคือต้องปิดกระเป๋าเดินทาง ใส่กุญแจให้แน่นหนา ทุกช่องทุกซอกของกระเป๋าเลยนะคะ แต่เดิมเรากลัวของเราหาย แต่เดี๋ยวนี้กลับต้องกลัวใครเอาของมาใส่ให้ เกรงใจ (ตัวเอง) กันแย่เลย เดี๋ยวได้ไปกิน-อยู่ฟรีใน (คุก) ต่างประเทศโดยไม่ได้ตั้งใจ
อ้างอิง http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=0415120848&srcday=2005/08/12&search=no&select_day=2005/08/12

พิธีลอยกระทง


สวัสดีค่ะท่านสมาชิก สำหรับฉบับปฐมฤกษ์ ท่านที่มีคำติชมประการใด ส่ง e-mail มาได้นะคะ สำหรับเล่ม 2 นี้ ดิฉันมีสาระน่ารู้มากมายที่อยากจะเล่าสู่ท่านสมาชิก เพราะในช่วงนี้ มีเทศกาลสำคัญๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ วันปิยะมหาราช วันลอยกระทง ซึ่งวันสำคัญและเทศกาลเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับปวงชนชาวไทย ถ้าจะเอ่ยถึงประเพณีไทยที่สืบต่อกันมาแต่โบราณ ทุกท่านคงไม่ปฏิเสธวันลอยกระทงที่จะมาถึงนี้ ในวันนี้ไม่ว่าชาวไทย ชาวต่างชาติ เด็กหรื ผู้ใหญ่ หญิงหรือชาย ล้วนมีความสุข มีการจัดงานการประกวดนางนพมาศ หรือขบวนรถบุพผาชาติ ไม่ว่าในกรุงเทพหรือตามจังหวัดต่างๆ
สำหรับประวัติความเป็นมา เดิมพิธีลอยกระทง เป็นราชพิธีลอยโคมของพราหมณ์ จัดขึ้นบูชาพระเจ้าทั้ง 3 คือพระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาเมื่อคนไทยรับพุทธศาสนาเข้ามา ก็จะทำพิธียกโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ การลอยกระทงตามสายน้ำ นางนพมาศ สนมเอกของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย ได้คิดค้นกระทงรูปดอกบัวและรูปต่างๆ ให้พระร่วงให้ทรงลอย เป็นการลอยเพื่อบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยใช้น้ำที่ไหลไปเป็นพาหนะนำกระทงดอกไม้ ธูปเทียน ไปสักการะในคืนวันเพ็ญ และเชื่อกันว่าเป็นการลอยทุกข์โศก พร้อมขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และที่สำคัญคือ เป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา รวมทั้งแม่น้ำ ลำคลอง ที่มีคุณต่อเราในการอุปโภคบริโภค และทำสกปรก เทศกาลลอยกระทง จะมีการจัดงานแทบทุกจังหวัด เพราะถือเป็นงานประจำปีที่สำคัญ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ นิยมทำกันในเดือนยี่เป็ง (เดือนยี่ หรือเดือน 2) มีการจัดขบวนแห่และปล่อยโคมลอย ในเวลากลางคืน จะทำให้เห็นแสงโคมบนท้องฟ้า พร้อมแสงจันทร์ที่สวยงาม ส่วนชาวอิสานจะเรียกว่า การไหลเรือไฟ ซึ่งในจังหวัดนครพนม นิยมนำหยวกกล้วยมาตบแต่งเป็นรูปพญานาค จุดไฟแล้วปล่อยให้ไหลไปตามลำน้ำโขง
ดิฉันได้มีโอกาสได้เที่ยวงานลอยกระทงที่จังหวัดเชียงใหม่ สนุกมากค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรถขบวนบุพผาชาติด้วยตาของตัวเอง รถขบวนได้แล่นไปตามถนน มีนางนพมาศนั่งโบกมืออยู่บนรถ ส่วนชาวบ้านก็เดินรำวงอยู่รอบๆ ที่ดีใจมากก็คือ ดิฉันได้มีโอกาสปล่อยโคมขึ้นฟ้าสมใจ ครั้งแรกก็กลัวร้อน แต่ในที่สุดก็เอาขึ้นจนได้ค่ะ เงยหน้าขึ้นท้องฟ้า สวยงามจริงๆ เห็นพระจันทร์เต็มดวง รอบล้อมไปด้วยดวงดาว จากฟ้าและโคมลอยค่ะ
ดิฉันขอส่งความสุขมายังทุกท่าน ขอให้ทุกข์ โศก โรค ภัย ต่างๆ ไหลไปตามลำน้ำนะคะ และอย่าลืมใช้วัสดุธรรมชาติทำกระทงด้วยนะคะ พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ
จาก : MMP Magazine ฉบับที่ 2

ฤดู ฝน กับยางของท่าน รู้ไว้คับ


ย่าง เข้าสู่ต้นฤดูฝน ที่มาอย่างรวดเร็วในสัปดาห์นี้ ฝนตกหนักสลับเบามาเป็นอาทิตย์แล้ว ผมจึงอยากนำวิธีการขับขี่ในสภาพถนนเปียกมานำเสนอครับ
1.ช่วงที่ฝนตก ไม่ควรใช้ความเร็วเกินกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือเร็วกว่านั้นเล็กน้อย ตามแต่สภาพผิวถนนและสภาพการจราจร เพระอาจเกิดอันตราย จากการลื่นไถลของรถยนต์ถ้าใช้ความเร็วสูง และผิวถนนมีน้ำท่วมขังอยู่บนผิวการจราจรในขณะที่ฝนตกหนัก และอาจประสบปัญหาลื่นไถลจากการเบรคอย่างรุนแรง แม้จะมีระบบป้องกันล้อล็อก (abs) ก็ตาม เพระยางไม่สามารถรีดน้ำออกจากหน้ายางที่จะสัมผัสกับผิวถนนได้อย่างเต็มที่ ทำให้รถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูงในระหว่างฝนตกเกิดอาการเหินน้ำ หรือที่หลายท่านเรียกว่า hydro planning หรือ การแล่นบนผิวน้ำ ผมเรียกเหินน้ำ
โดย ปกติแล้วน้ำที่ท่วมขังผิวการจราจร เมื่อยางรถยนต์แล่นไปบนน้ำ ยางของท่านต้องใช้น้ำหนักและดอกยาง กดไล่นำ้ให้ไปที่ร่องยาง และสลัดน้ำออกไปด้านข้างทั้งสองเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนได้อย่างเต็ม ที่ ถ้ายางหมุนเร็วจนเกินไปเพระผู้ขับใช้ความเร็วสูงมาก ดอกยางก็ไม่สามารถกดไล่น้ำให้เข้าไปที่ร่องยางได้ทัน รถยนต์อาจเกิดการลื่นไถลได้
2.หลายท่านมีความจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ เพื่อไปให้ถึงที่หมาย จึงควรตรวจเช็คลมยางเป็นประจำ ถ้าถนนที่จะขับผ่านมีน้ำท่วมขังบ้างแต่ยังพอขับได้ควรเติมลมยางให้สูงกว่า ปกติ 2-3 ปอนด์ต่ตารางนิ้ว เพื่อทำให้หน้ายางแข็ง และมีกำลังในการวิ่งตัดน้ำ
3.ยางที่ร่องตื้น หรือยางหัวโล้น ควรรีบเปลี่ยนทันทีที่ฤดูฝนมาถึง เพระดอกยางและร่องยาง มีไว้ให้น้ำแทรกตัวและสบัดออก
4.ควรเลือกใช้ยางดอกละเอียด หรือยางที่มีลายดอกยางเป็นรูปตัววี เพระมีร่องยางที่ช่วยในการรีดน้ำได้ดีขึ้น
5.มียางอะไหล่ พร้อมทั้งแม่แรงติดรถไว้ตลอดเวลา และหมั่นตรวจเช็คลมยางอะไหล่ด้วย

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การขับรถที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งานและช่วยประหยัดน้ำมัน


การขับรถที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งานและช่วยประหยัดน้ำมัน
การขับรถเพื่อให้ได้ระยะทางที่เพิ่มมากขึ้นต่อน้ำมันหนึ่งลิตร เป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างง่ายทั้งยังเป็นผลทำให้อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ยาวนานยิ่งขึ้น เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย่ทั้งค่าซ่อม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงโดยการปฏิบัติคตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้
เติมลมยางให้มีความดันถูกต้องเสมอโดยการตรวจเช็คความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ลมยางอ่อนเกินไป จะกินยางและสิ้นเปลืองเฃื้อเพลิง
อย่านำของที่ไม่จำเป็นไปกับรถ น้ำหนักที่บรรทุกไปโดยไม่จำเป็นจะกินกำลังเครื่องยนต์และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น
ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องนาน ทันทีที่เครื่องเดินเรียบก็ค่อยๆออกรถได้
เร่งเครื่องอย่างช้าๆและนุ่มนวล อย่าเร่งออกรุนแรง และเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นโดยเร็ว
อย่าติดเครื่องเดินเบานานๆ เมื่อต้องรอคอยนานๆ หรือไม่ได้ขับขี่อยู่ควรดับเครื่องแล้วค่อยๆสตาร์ทใหม่ทีหลัง
หลีกเลี่ยงการลากเกียร์และเร่งเครื่องจนรอบจัดเกินไปใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับช่วงความเร็ว และ สภาพถนน
อย่าหยุดหรือเบรคโดยไม่จำเป็น กะช่วงเวลาและสัญญาณไฟจราจรให้ดี รักษาระยะจากคนอื่นให้พอสมควร เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตู และ การเบรคหยุดโดยไม่จำเป็น
หลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นติดขัด
อย่าวางพักเท้าบนแป้นเหยียบคลัชท์หรือเบรคซึ่งจะก่อให้เกิดความสึกหรอที่ไม่จำเป็นและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น
รักษาความเร็วบนทางหลวงให้พอเหมาะ ยิ่งขับขี่ด้วยความเร็วสูงมากๆ ยิ่งสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น
ล้างฝุ่นและโคลนใต้ท้องรถออกให้หมด นอกจากจะเป็นการช่วยลดน้ำหนักยังป้องกันสนิมด้วย
ระมัดระวังศูนย์ล้อให้ถูกต้องเสมอ ระวังอย่าให้ชน หรือกระทบกระแทกจนศูนย์ล้อหน้าเสีย ซึ่งนอกจากจะเป็นผลให้ยางสึกหรอผิดปกติแล้ว ยังเพิ่มภาระให้กับเครื่องยนต์ ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วย
หมั่นปรับตั้งเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์อยู่เสมอ จะทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีอยู่เสมอ ก็จะไม่สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

รูปสวยๆ

pongvason



บทความแนะนำตัวเราเอง

ชื่อ นายพงษ์วสันต์ จาริชานนท์

ชื่อเล่น เอ๋

ที่อยู 244หมู่6 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000

เกิน 25/08/2531 อายุ 21 ปี

สถานศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

คณะ การท่องเที่ยวและการโรงแรม